กาแฟเอสเพรสโซ่

กาแฟเอสเปรสโซ่ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศอิตาลีราวๆ ศตวรรษที่ 20 ช่วงเวลาดังกล่าวกาแฟกลายเป็นหัวใจสำคัญในการดำรงชีวิตของคนอิตาลี คนที่นำเอากาแฟเอสเปรสโซ่เข้ามายังประเทศอิตาลีเป็นชาวแอฟริกันมุสลิมแต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนคิดค้นกาแฟเอสเปรสโซ่ขึ้นมาจริงจังเป็นเจ้าของโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองมิลานนามว่า ลุยจิ เบเซร่า

กาแฟเอสเปรสโซ่ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศอิตาลีราวๆ ศตวรรษที่ 20 ช่วงเวลาดังกล่าวกาแฟกลายเป็นหัวใจสำคัญในการดำรงชีวิตของคนอิตาลี คนที่นำเอากาแฟเอสเปรสโซ่เข้ามายังประเทศอิตาลีเป็นชาวแอฟริกันมุสลิมแต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนคิดค้นกาแฟเอสเปรสโซ่ขึ้นมาจริงจังเป็นเจ้าของโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองมิลานนามว่า ลุยจิ เบเซร่า ชาวอิตาเลียน เรื่องราวนี้ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1903 ลุยจิเองรู้สึกว่าทุกเช้าเมื่อเขาตื่นขึ้นมาเขารู้สึกได้ถึงความเสียเวลาในการชงกาแฟอย่างมาก นั่นจึงทำให้เขามีไอเดียในการคิดค้นเครื่องมือบางอย่างสำหรับเป็นตัวช่วยในเรื่องการชงกาแฟให้มีความรวดเร็วมากขึ้น ลุยจิได้เรียกเครื่องดังกล่าวนี้ว่า Fast Coffee Machine หรือในภาษาอิตาเลียนคือ espresso ความหมายตรงตัวของภาษาเมื่อแปลเป็นไทยคือ รวดเร็ว. เร่งด่วน นั่นจึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของกาแฟที่คนทั่วโลกรู้จักในเวลาต่อมาว่า กาแฟเอสเปรสโซ่

ในปี 1905 เป็นเรื่องน่าเสียดายมากเมื่อ ลุยจิ เบเซร่า ได้ตัดสินใจขายเครื่องชงกาแฟนั้นทิ้งให้กับ เดซิเดอโร่ ปาโวนี่ เนื่องจากเขาเองเป็นคนไม่มีความรู้ทางการตลาด แต่ปาโวนี่มีความเชี่ยวชาญทางการตลาดสูง เขาได้ทำการจดสิทธิบัตรเครื่องนี้อย่างเป็นทางการ จากสิ่งนี้เองทำให้กาแฟพร้อมเครื่องขงกาแฟเอสเปรสโซ่เริ่มได้รับความนิยมในสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงปี 1927 กระทั่งกาแฟเอสเปรสโซ่ได้กลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนทั้งโลกไปโดยปริยาย ทุกวันนี้กาแฟเอสเปรสโซ่ได้มีการพลิกแพลงสูตรต่างๆ ผสมผสานเข้าไปมากมายแล้วแต่ความชื่นชอบของคนในพื้นที่นั้นๆ อย่างในอังกฤษคนมักนิยมผสมกับนมและฟองนมจึงเรียกว่า คาปูชิโน่ ในสหรัฐฯ เอาไปผสมกับนมเรียกว่า ลาเต้ พูดง่ายๆ คือ กาแฟเอสเปรสโซ่เป็นเสมือนต้นตำรับของกาแฟหลายๆ ชนิดทั่วโลก ทำให้คนยุคนี้มีกาแฟรสชาติดีๆ ดื่มมากมาย จุดเริ่มต้นมาจากกาแฟรสเข้มตัวนี้นั่นเอง ถือว่ามีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดๆ สำหรับกาแฟเอสเปรสโซ่

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
caffeinedestiny.com, wikipedia,