กาแฟลาวซึ่งเป็นที่นิยมมาก การันตีความฮอตของเมล็ดกาแฟลาวที่เป็นสินค้าส่งออก อันดับ 12 ในสปป.ลาว และส่งออกเมล็ดกาแฟติดอันดับ 5 ของทวีปเอเชีย ซึ่งตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ เวียดนาม เบลเยียม ญี่ปุ่น ไทย และเยอรมนี (ข้อมูล: พ.ย. 61) เพื่อทำความรู้จักแบบเจาะลึกเรามาดูกันเถอะว่า ปัจจัยอะไรทำให้กาแฟลาวโดดเด่นขนาดนี้
คุณรู้หรือไม่ว่ากว่า 80% ของกาแฟที่ปลูกในเมืองลาวเป็นกาแฟโรบัสต้ารสเข้มข้นไม่หอมมาก ส่วน 20% ที่เหลือเป็นกาแฟพันธุ์อราบิก้าไม่เข้มแต่หอมมาก เอาเป็นว่า ถ้าเลือกทั้งสองมาเบลนรวมกันได้รสชาติที่ดีน่าประทับใจทีเดียวค่ะ สรุปความเจ๋งของกาแฟลาวตามหัวข้อดังนี้
กาแฟลาวมีพื้นที่ปลูกเหมาะสม
ภายในระยะเวลา 7 ปี กาแฟลาวมีปริมาณส่งออกเมล็ดขยายตัวกว่า 150% พูดถึงทีเด็ดคงต้องยกให้กาแฟบนพื้นที่ราบสูงโบลาเวน จำปาสัก รวมถึงพื้นที่บริเวณแขวงเซกอง และแขวงสาละวัน แห่งสปป.ลาว ที่เป็นกาแฟมีรสชาติดีเพราะอยู่ในบริเวณพอเหมาะสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร จึงมีความหอม กลมกล่อมมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก
รสชาติดีมีเอกลักษณ์
ด้วยความที่กาแฟลาวเป็นกาแฟสายพันธ์ุ คือ ทิปปิก้า (Typica) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดกาแฟสายพันธุ์อราบิก้าที่ชาวฝรั่งเศสนำพันธุ์เข้ามาปลูก พอเจอดินดี ความชื้นดี อากาศดี ความสูงได้ระดับยิ่งทำให้กาแฟลาว มีความโดดเด่น เพราะหอมกรุ่น กลมกล่อม ไม่เข้มมาก (เหมาะสำหรับชงเป็นเมนูกาแฟร้อน)
โรงคั่วมีมาตรฐานทำให้รสชาติดี
ดั่งคำที่ว่า โรงคั่วกาแฟดีมีชัยไปกว่าครึ่ง (อันนี้เป็นประโยคผู้เขียนแต่งขึ้นเอง) เพราะกรรมวิธีการคั่วมีผลต่อรสชาติกาแฟอย่างแรง ซึ่งพื้นที่สปป.ลาว มีผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์และความรู้ด้านการคั่วกาแฟให้ได้มาตรฐาน และได้รสชาติดีเยี่ยม คงคุณภาพไว้ได้เป็นอย่างดี
สร้างสตอรี่ได้อย่างน่าสนใจ
เพราะสปป.ลาวเป็นพื้นที่น่าเที่ยว และมีการสร้างเรื่องราวต่าง ๆ เช่นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่พาเที่ยวเก็บกาแฟแบบ Cherry-to-cup ยิ่งทำให้มีเรื่องราวน่าสนใจ เติมเสน่ห์ให้กับกาแฟเข้าไปให้นักท่องเที่ยวอินกับการปลูกกาแฟ เก็บเกี่ยว จนถึงกระบวนการคั่ว และชงดื่ม ยิ่งทำให้ความน่าหลงใหลเพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณ
